การเลือกใช้วัสดุสำหรับประตูหน้าต่าง ความ สบายในการอยู่อาศัยภายในบ้านนั้น เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกัน เช่น ทิศที่ตั้งของบ้าน ขนาดพื้นที่ อุณหภูมิ ความชื้น และอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ ไม่ แพ้ข้ออื่น ๆ เลย ก็คือ การระบายอากาศภายในบ้าน บ้านที่มีการระบายและถ่ายเทอากาศได้ดี มีการเจาะช่องเปิดของหน้าต่างในตำแหน่งและทิศทางที่เหมาะสม จะช่วยทำให้เกิดภาวะของความน่าสบายภายในบ้าน ดังนั้น การให้ความสำคัญในเรื่องของบานประตูและหน้าต่าง ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยสำหรับการสร้างบ้าน
ใน การติดตั้งบานกรอบประตูและหน้าต่างนั้น ในปัจจุบันมีวัสดุหลายชนิดให้เราได้เลือกใช้ นอกจากเราจะเลือกวัสดุจากความสวยงามและราคาแล้ว ซึ่งต้องคำนึงถึงและมีความสำคัญมากก็คือ ความเหมาะสมกับการใช้งานนั่นเอง โดยตามท้องตลาดในปัจจุบันมีวัสดุบานกรอบประตูหน้าต่างให้เลือกหลายชนิด ดังนี้
ไม้... มีความสวยงามตามธรรมชาติซึ่งเกิดจากสีของเนื้อไม้และลายไม้ซึ่งจะแตกต่างกัน ตามชนิดของไม้ เราควรเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง ไม้เต็ง เพราะจะมีความทนทานใช้งานได้นาน โดยจะต้องเลือกไม้ที่ไม่มีรอยแตก รอยบิ่น ไม่โก่งหรือบิดตัวจะได้ไม่เกิดปัญหาแก่การใช้งานในภายหลัง โดยทั่วไปแล้วตามท้องตลาดจะมีขนาดของประตูมาตรฐาน คือกว้าง 0.80 เมตร สูง 2 เมตร แต่เราสามารถเลือกขนาดได้ตามความต้องการของเรา เช่น ใช้ประตูที่มีความกว้างมากกว่าปกติสำหรับทางเข้าหลักของบ้าน และโดยทั่วไปแล้ววงกบไม้จะมีขนาด 2” X 4” หรือ 2”X 5”
เหล็ก...ส่วน ใหญ่จะใช้กับบริเวณที่ต้องการความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษ เช่น ในโรงงาน โรงรถ ห้องเก็บของ โกดัง หรือการใช้ประตูเหล็กทนไฟ ในโรงพยาบาล วงกบเหล็ก มีกรอบเหล็กผลิตโดยขึ้นรูป ขนาด 50 X 100 X 1.6 มิลลิเมตร
บาน เหล็กใช้แผ่นเหล็กผลิตโดยการพับขึ้นรูปมาจากโรงงาน ประตูเหล็กสามารถทนไฟได้ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นประตูหนีไฟจะมีการเคลือบฉนวนและติดยางกันควันไว้ จะทนไฟได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
อลูมิเนียม...มี หลายสีให้เลือกใช้ เช่น อลูมิเนียมสีชา สีน้ำตาลเข้ม สีดำ (สีค่อนไปทางน้ำตาล) อลูมิเนียมสีธรรมชาติ (ซึ่งก็คือวงกบอลูมิเนียมที่มีสีเงิน ๆ นั่นเอง) และมีการใช้ระบบการเคลือบสีที่เรียกว่า POWDER COATING ซึ่งการเคลือบสีแบบนี้เราจะสามารถเลือกใช้สีได้ตามความต้องการ และมีความทนทานมากกว่า ซึ่งราคาก็จะสูงกว่าอลูมิเนียมธรรมดา ส่วนมากที่เห็นได้ทั่วไปจะเป็นสีขาวและ สีดำ
เมื่อเปรียบเทียบ ระหว่างไม้กับอลูมิเนียมแล้วจะเห็นได้ว่าวัสดุอลูมิเนียมจะมีความสม่ำเสมอ มากกว่าไม้ เพราะว่าผลิตออกมาจากโรงงาน สามารถควบคุมคุณภาพได้ จึงมีราคาสูง แต่ถ้าหากเราใช้ไม้เกรดดีมาก ๆ ก็อาจจะแพงกว่าการใช้อลูมิเนียมได้ อลูมิเนียมจึงมักถูกใช้เป็นวงกบ หรือขอบในห้องน้ำ หรือตามริมทะเล เนื่องจากไม่ผุกร่อนง่ายเหมือนไม้และไม่ขึ้นสนิมหากอยู่กับสิ่งก่อสร้างที่ อยู่ใกล้ทะเล
UPVC...ตอน นี้ประตูหน้าต่าง upvc กำลังเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะกับบ้านพักอาศัย เพราะว่าดูสวยงามเหมาะกับบ้านมากกว่าอลูมิเนียมที่ดูเป็นสำนักงานมากกว่า ข้อดีของ UPVC นอกจากความสวยงามก็คือเรื่องระบบป้องกันน้ำรั่วซึม ซึ่งจะไม่เห็นในงานประตูหน้าต่างไม้แบบดั้งเดิม ป้องกันเสียงได้ดี ทนสภาพอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทยได้ดี ดูแลรักษาง่ายแค่ใช้น้ำเช็ดคราบสกปรกออก และยังไม่ถูกรบกวนโดยปลวกและแมลง ส่วนข้อเสียของมันก็คือ มีราคาแพง และถ้าจะติดมุ้งลวดจะต้องใช้แบบม้วน หรือจีบ ซึ่งก็แพงอีก ตก 1,500-2,500 บาท/ตร.ม.
กระจก...จะ นำมาใช้ในส่วนของลูกฟักประตูและหน้าต่าง เราสามารถเลือกชนิดกระจก เป็นกระจกเทมเพอร์ ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยที่แตกออกเป็นเม็ดข้าวโพด หรือกระจกลามิเนตที่สามารถเลือกสีได้ตามความต้องการ นอกจากนี้เรายังสามารถสร้างลวดลายได้โดยการพ่นทรายลงบนกระจก โดยสามารถเลือกขนาดของกระจกได้ตามความต้องการ โดยกรอบอาจเป็นวัสดุอื่น ๆ เช่น อลูมิเนียม ไม้ UPVC
นอกจากการเลือกใช้วัสดุของวงกบและบานประตูหน้าต่างแล้วความรู้พื้นฐานที่เราควรทราบในการติดตั้งวงกบและบานประตูหน้าต่างมีดังนี้
- การ ติดตั้งบานประตูหน้าต่างไม่ได้ทำพร้อมกับการติดตั้งวงกบ เราจะต้องทำการติดตั้งวงกบไปพร้อม ๆ กับการก่อผนัง หลังจากนั้นจึงเว้นระยะออกไป ค่อยติดตั้งบานประตูหน้าต่างซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่บ้านใกล้เสร็จ เพราะถ้าติดตั้งบานประตูหน้าต่างเลยจะเกิดความไม่สะดวกในการก่อสร้าง เช่นการเคลื่อนย้ายวัสดุ
- ในการติดตั้งวงกบกรณีที่เป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน จะต้องมีเสาเอ็นและทับหลังโดยรอบเพื่อยึดตัววงกบกับผนัง เพราะถ้า ผนังก่อ อิฐฉาบปูนมาชนกับวงกบเฉยๆ จะทำให้การเชื่อมต่อ ไม่แข็งแรง เกิดการแตกร้าวได้ ในการติดตั้งวงกบอลูมิเนียมเมื่อวางวงกบอลูมิเนียมบนผนัง จะต้องเว้นช่องว่างไว้ ประมาณ 0.5 ซม. แล้วจึงใส่ซิลิโคนเข้าไปอุดรอย ต่อระหว่างอลูมิเนียมกับขอบปูน เพื่อป้องกันการรั่วซึมจากน้ำ ฝน ส่วนวงกบ PVC. นั้นผลิตจากเนื้อ PVC. ที่มี โครงสร้างภายในเป็นเหล็กเสริม ติดตั้งได้ทั้งผนังไม้ ปูน และโลหะ การเข้ามุมต่างๆ จะใช้ความร้อน สามารถทำให้ประสานกันได้สนิท และสวยงาม
- การ หล่อเสาเอ็นและทับหลังควรทำโดยการวางตำแหน่งของวงกบก่อนแล้วก่ออิฐทำผนัง เข้าหาวงกบที่ทำไว้ เว้นช่องให้มี ขนาดเท่ากับเสาเอ็นที่กำหนดใบแบบ จากนั้นทำการผูกเหล็ก วางไม้แบบ แล้วเทคอนกรีตตามไม้แบบที่วางไว้จะได้เสาเอ็น ไม่ควรทำเสาเอ็นและทับหลังก่อนโดยเว้นช่องไว้แล้วค่อยมาติดตั้งวงกบในภาย หลังการกระทำดังกล่าวจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง วงกบกับเสาเอ็นและทับหลังไม่เชื่อมสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน อาจเกิดร่องห่าง เป็นสาเหตุให้น้ำฝนซึมเข้า หรือเกิดการ แตกร้าวตรงรอยต่อ ได้ในภายหลัง
ข้อสังเกตเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุและการติดตั้งบานประตูหน้าต่าง
1. วัสดุ ที่ใช้ทำบานประตูหน้าต่างต้องอยู่ในสภาพที่ดี ถ้าเป็นอะลูมิเนียม ต้องอยู่ในสภาพที่ไม่มีรอย บุบหรือบิดงอ ถ้าเป็นบานประตูหน้าต่าง ที่ทำด้วยไม้ จะต้องไม่มีรอยแตกหรือผุ ไม่บิดงออย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบานประตูที่ทำด้วย ไม้อัดจะต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยแตกปริ หรือปูดของแผ่นไม้อัดความชื้น ซึ่งสามารถพบเห็นได้บ่อย
2. สำหรับ ประตูหน้าต่างชนิดบานเลื่อน ควรเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบา และไม่บิดงออย่างเช่น อลูมิเนียม เพราะจะสะดวกต่อการใช้งาน เวลาเลื่อนเปิดหรือปิด จะไม่เกิดการติดขัดเนื่องจากน้ำหนักของวัสดุ แต่ถ้าเป็นประตูหน้าต่างบานเปิด สามารถเลือกใช้ได้ทั้งไม้และอลูมิเนียมเพราะน้ำหนักของวัสดุไม่มีผลมากในการ ใช้งาน
3. การ เลือกชนิดวัสดุต้องคำนึงถึงพื้นที่การใช้งานด้วย เราไม่ควรเลือกใช้ไม้ในกรณีที่อยู่ภายนอกบ้านซึ่งต้องเจอกับน้ำฝน และแสงแดดที่ร้อนจนทำให้ไม้ซีดจางและผุกร่อนหรือใช้ในบริเวณห้องน้ำ ถ้าหากจะใช้ไม้ก็ควรจะเป็นไม้จริงทาด้วยสีน้ำมันหรือใช้ไม้อัดที่เป็นชนิด กันน้ำ
4. ประตู ที่อยู่ติดกับภายนอกอาคารหรือประตูห้องน้ำควรเป็นประตูบานเปิดที่เปิดออกนอก บ้านเพื่อป้องกันปัญหาการไหลย้อนของน้ำฝนเข้ามาทางประตูหน้าต่าง และควรทำขั้นเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นเข้ามาในบ้าน
ที่มา forfur.com
Labels: การเลือกประตู, การเลือกหน้าต่าง, ประตู, หน้าต่าง