--Advertisement--





กลิ่นเหม็นอับในช่องแอร์กับวิธีดูแลรักษา

กลิ่นอับ กลิ่นเหม็น เป็นกลิ่นที่ท่านผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ไม่พึ่งประสงค์ ที่จะให้เกิดขึ้นภายในบ้าน และรถยนต์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ ต้นตอแห่งกลิ่นเหม็นอับชื้นที่เกิดขึ้นในรถยนต์ ส่วนใหญ่เกิดมาจากตู้แอร์ภายในรถยนต์ที่มีความอับชื้น เมื่อจอดรถยนต์ตากแดดเป็นเวลานานๆ ความชื้นที่เกิดขึ้น บวกกับความร้อน ได้ทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในตู้แอร์เกิดการทำงาน และส่งกลิ่นเหม็นอับออกมาเมื่อเปิดแอร์ใหม่ๆ “ทราบหรือไม่ว่ากลิ่นเหม็นอับภายในห้องโดยสารหรือในบ้าน คือ แหล่งสร้างเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว”

กลิ่นเหม็นอับ ที่เกิดจากตู้แอร์ภายในห้องโดยสารหรือในห้องนอน เป็นแหล่งการสร้างเชื้อโรคชั้นเยี่ยม ที่อยู่ภายในห้องโดยสาร ในเวลาที่เปิดแอร์ กระแสลมได้พัดพานำ แบคทีเรีย เชื้อราต่างๆ ออกมาปนเปื้อนอยู่ในอากาศ เมื่อเราหายใจเข้าไปก็จะรับเอาเชื้อโรคเข้าไปด้วย  ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยในหลายโรคที่เกิดขึ้น การดูแลรักษา และ รู้จักการใช้แอร์อย่างถูกวิธี ย่อมเป็นการช่วยให้ห้องโดยสารไม่มีกลิ่นอับหรือมีกลิ่นที่น้อยลงได้

แอร์ porcoenergy.com

วิธีการดูแลรักษา แอร์-เครื่องปรับอากาศ

- อย่าวางสิ่งของขวางทางลมเข้าออก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ลดลงและสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า

- หมั่นล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้มีฝุ่นเกาะ เพราะหากแผ่นกรองอากาศสกปรกหรืออุดตัน จะทำให้แอร์ทำงานหนัก ห้องไม่เย็น และสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า การล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ  คือ ถอดหรือเปิดตะแกรงพลาสติกด้านหน้าตัวเครื่องแอร์ นำแผ่นกรองอากาศที่อยู่ด้านใน ออกมาเป่าด้วยลมหรือล้างด้วยน้ำสะอาดและผึ่งให้แห้ง จากนั้นนำกลับไปใส่ไว้ตามเดิม ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง

- ควรติดตั้งชุดระบายความร้อน ไว้ในบริเวณที่โปร่งโล่ง เพื่อให้อากาศภายนอกหมุนเวียนได้สะดวก ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในตำแหน่งที่อับลม เช่น ใต้ถุนอาคารหรือใต้ราวบันได และควรหลีกเลี่ยงการนำสิ่งของไปวางไว้บริเวณรอบ ๆ เพราะอาจจะทำให้ลมไหลเวียนได้ไม่สะดวก และยังทำให้แอร์ทำงานหนักและใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ที่สำคัญ อย่าติดตั้งชุดระบายความร้อนใกล้ผนังจนเกินไป เพราะจะทำให้ระบายความร้อนไม่สะดวก ควรติดตั้งห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 15 ซ.ม.

- ทำความสะอาดแผงท่อของชุดระบายความร้อน โดยการใช้แปรงนิ่ม ๆ และฉีดน้ำล้างเพื่อทำความสะอาดบริเวณแผงอลูมิเนียมและคลีบระบายความร้อน ทุกๆ 6 เดือน จะช่วยทำให้แอร์ระบายความร้อนได้ดีขึ้นและช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า

- ตรวจสอบฉนวนหุ้มท่อน้ำยาอย่างสม่ำเสมออย่าให้ฉีกขาด และเพื่อให้แอร์ที่ใช้งานมีประสิทธิภาพอยู่เสมอและประหยัดพลังงาน

ลองนำเคล็ดลับที่แนะนำไปดูแลรักษาแอร์กันดูได้เลยครับ

ที่มา  tumsrivichai.com เดลินิวส์ออนไลน์

---------------------------------------------

วิธีการใช้แอร์ในรถยนต์ที่ถูกต้อง
ทุกครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ ควรที่จะปิดแอร์ (ปุ่ม AC) ภายในรถยนต์เสียก่อน ที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ต ในกรณีที่จอดรถตากแดดเป็นเวลานานควรที่เปิดประตูทิ้งไว้ซัก 2-3 นาที เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องโดยสาร “ความร้อนของแสงแดดที่สาดส่องลงมาเป็นเวลานานทำให้สารเคมีที่เป็นส่วนผสมของพลาสติกต่างๆ ภายในห้องโดยสารนั้นระเหยออกมา เมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารในทันที ร่างกายก็จะสูดรับเอาสารเคมีนั้นเข้าไปด้วยซึ่งเป็นโทษต่อร่างกายในระยะยาว”

เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วควรที่จะเปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ซัก 1 นาที เพื่อไล่ความร้อนที่สะสมอยู่ในตู้แอร์ แล้วค่อยกดเปิดแอร์ ( ปุ่ม AC) ให้คอมเพรสเซอร์ทำงานสร้างความเย็นภายในห้องโดยสาร ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึงปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลม และสวิตช์ควบคุมระดับความเย็น ลงสู่ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ

ในส่วนของการเลิกใช้งาน ก่อนถึงบ้านประมาณซัก 2-3 กม. ให้กดปุ่มปิดการทำงานของคอมเพรสเวอร์(ปุ่ม AC) เพื่อหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และปรับสวิตซ์พัดลมแอร์ให้มีความแรงเพิ่มขึ้น เพื่อให้พัดลมเป่าไล่ความชื้นออกจากตู้แอร์ จะทำการปิดสวิตซ์พัดลมแอร์เมื่อวอร์มดาว “ปิดพัดลมแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์” ซึ่งการทำอย่างนี้เป็นประจำนั้นช่วย ลดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ห้องโดยสารมีกลิ่นเหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้แอร์ให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม

ที่มา :
คอลัมน์ รอบรั้วบ้าน นิตยสารชีวจิต
carcare.exteen.com



Labels: , , ,


Leave A Comment:

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...